คุมตัวพ่อข่มขืนลูก 8 ขวบ ฝากขัง เมียร่ำไห้ไม่เชื่อ อาจถูกบีบสารภาพ

Saturday, July 2, 2016

ตร.คุมพ่อ ตกเป็นผู้ต้องหาข่มขืนลูกแท้ๆ วัย 8 ขวบออกจาก รพ.ตรัง ฝากขังศาลจังหวัดตรัง ขณะที่แม่ร่ำไห้ไม่เชื่อสามีจะเป็นผู้ลงมือทำ เพราะหลักฐานต่างๆ ยังไม่ชัด แต่อาจถูกบีบบังคับให้สารภาพ เช่นเดียวกับย่าและยายต่างก็ไม่เชื่อ วอนสังคมรอผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์...

ความคืบหน้าจากกรณีเด็กหญิงวัย 8 ขวบ ชาว ต.หนองตรุด อ.เมือง จ.ตรัง ได้ถูกคนร้ายหลอกให้กินน้ำอัดลมผสมสารเมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) จนทำให้เกิดอาการคลุ้มคลั่ง ก่อนแอบย่องเข้าไปภายในห้องนอนในช่วงดึกขณะที่พ่อแม่ออกไปกรีดยาง แล้วล่วงละเมิดทางเพศอย่างรุนแรง ทำให้หนูน้อยมีเลือดออกในช่องท้อง และเกิดหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน จนเสียชีวิตลงในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลตรังนั้น

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 พ.ค. พ.ต.ต.ชาญณรงค์ กลอนสม สารวัตร (สอบสวน) สภ.หนองตรุด อ.เมืองตรัง เจ้าของคดี ได้ควบคุมตัว พ่อ วัย 33 ปี ที่ตกเป็นผู้ต้องหาข่มขืนลูกตัวเอง วัย 8 ขวบ นำไปฝากขังผัดแรก ที่ศาลจังหวัดตรัง ขณะที่เจ้าตัวกลับคำให้การ อ้างยอมรับเพราะถูกกดดัน ด้านญาติยังหวังรอผลดีเอ็นเอที่จะออกสัปดาห์นี้ ทำให้ผู้ต้องหาพ้นผิด โดยผู้ต้องหามีอาการอิดโรย จนตำรวจต้องช่วยกันประคองเพื่อนำขึ้นรถ 191 ไปยังศาล ขณะที่นักจิตเวชโรงพยาบาลตรัง ได้พูดคุยกันนานกว่า 2 ชั่วโมง ผู้ต้องหามีท่าทีผ่อนคลาย แพทย์จึงอนุญาตให้นำตัวไปฝากขังได้

ขณะที่ผู้เป็นแม่ของเด็ก ให้สัมภาษณ์ว่า ส่วนตัวตนยังไม่เชื่อว่า สามีของตนซึ่งเป็นพ่อแท้ๆ จะกระทำการดังกล่าว เนื่องจากเขาเป็นพ่อที่รักและเป็นห่วงลูกมาก รวมทั้งช่วยตนดูแลลูกมาโดยตลอด ส่วนการตรวจสอบหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพบ ก็อาจเป็นการเข้าใจผิด เพราะตนและสามีกับลูกๆ ก็นอนด้วยกันมาโดยตลอด นอกจากนั้น ประมาณ 3 วันก่อนที่จะเกิดเรื่องขึ้น ตนกับสามีก็เพิ่งมีเพศสัมพันธ์กัน จึงอาจเป็นไปได้ว่าคราบอสุจิที่พบบนที่นอนกับชุดของลูกสาว อาจเป็นของสามีกับตน ไม่ใช่กับลูกตน เพราะจำได้ว่าครั้งหนึ่งสามีมีการใช้ชุดของลูกสาวมาเช็ด หลังจากเสร็จภารกิจกับตน แล้วก็โยนชุดทิ้งไว้บริเวณห้องนอน ซึ่งตนก็ยังไม่ได้ทำความสะอาด แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจยึดไปเป็นหลักฐาน

อย่างไรก็ตามหากผลดีเอ็นเอออกมาตรงกับสามี ตนก็พร้อมจะยอมรับและทำใจได้ โดยต้องปล่อยให้ดำเนินการไปตามกฎหมาย เพราะตนก็ไม่มีเงินที่จะไปวิ่งเต้นคดี หรือให้การช่วยเหลือใดๆ แต่หากตราบใดที่ผลทางวิทยาศาสตร์ยังไม่ออกมายืนยันชัดเจน ตนและครอบครัวขอความเป็นธรรมด้วยว่า อย่าเพิ่งตัดสินว่าสามีตนเป็นคนผิด หรือเป็นพ่อที่ข่มขืนลูกตนเอง

"ส่วนการที่สามีตนยอมรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเป็นผู้ลงมือทำนั้น ตนเชื่อว่าเป็นเพราะถูกกดดัน เพราะก่อนหน้า 2-3 วัน เขาก็มีความเครียดพอสมควร เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมาพบหลายชุดมาก จนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ทั้งนี้ ตนยังมั่นใจว่า นายเฟริส ผู้ต้องหาคนแรก เป็นคนทำ เพราะเชื่อตามคำบอกของลูกสาวก่อนสิ้นใจ อีกทั้งลูกสาวคนเล็กอายุ 4 ขวบก็ยืนยันว่า เห็นนายเฟริส เข้าไปในห้องนอน และมีการชี้ได้ไม่ผิดตัว" ผู้เป็นแม่กล่าว

ด้าน พ.ต.ท.สมยศ สมบัติมาก หน.สภ.หนองตรุด กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ที่จะออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานอย่างเต็มที่ และถูกต้องตามกระบวนการทุกอย่างแล้ว โดยขณะนี้กำลังรอผลการตรวจดีเอ็นเอ และตรวจร่างกายที่ รพ.สงขลานครินทร์ (มอ.) ซึ่งคาดว่าจะทราบผลในเร็วๆ นี้ ส่วนละเอียดของคดีในเชิงลึกขอให้สอบถามไปยัง พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช ผบก.ภ.จ.ตรัง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด.

ที่มา http://www.thairath.co.th/content/625719